ดูบทความถมที่ในบ้าน ระวังรั้วพัง
ถมที่ในบ้าน ระวังรั้วพัง
เรื่องนี้อยากจะเตือนคนที่มีบ้านอยู่เดิมหรือที่กำลังจะปลูกใหม่ และมีความ จำเป็นจะต้องถมที่ ให้สูงกว่าเนินดินของที่ดินที่อยู่ข้างเคียง เนื่องจากมีประสบการณ์ ตรงจากผู้เขียนถึง 2 ครั้ง 2 ครา และเป็นฝ่ายที่อยู่เฉย ๆ แท้ ๆ
...ครั้งแรกเหตุเกิด เมื่อปี 2550 บ้านที่ปลูกอาศัยมากว่า 30 ปี เนื้อที่ดินประมาณ 300 กว่าตารางวา ด้านหน้าทางทิศเหนือและด้านข้างทางทิศตะวันออกติดถนนซอย ส่วนที่เหลืออีก 2 ด้านคือด้านข้างทางทิศตะวันตกและด้านหลังทิศใต้ติดที่ดินข้างเคียง บ้านหลังนี้ ได้ก่อสร้างเป็นลักษณะทรงสเปนบนที่เนินสูงถม เฉพาะบริเวณที่เป็นตัวบ้าน (ขณะนั้นยังไม่มีกฎหมายถมดินขุดดินฯ)โดยเว้นระยะห่างของแนวรั้วด้านข้างและ ด้านหลังออกมาหลายเมตร(เกินกว่า 3.00 เมตร) ซึ่งเดิมหลังบ้านเป็นบ้านเช่าไม้ หลังเล็ก ๆ มีต้นมะเฟือง ต้นมะยม อยู่ริมรั้ว
ต่อมาเจ้าของบ้านเช่าต้องการสร้างบ้าน อยู่อาศัยเองจึงได้รื้อบ้านเก่าออก ขุดต้นไม้ออกหมด(อันนี้เป็นที่น่าเสียดายมาก) แล้วก็จัดการถมดินโดยอาศัยแนวรั้วด้านหลังของบ้านผู้เขียนเป็นรั้วร่วมกัน ความที่ คิดว่าคงถมดินปกติของการปลูกบ้านใหม ่ผู้เขียนจึงไม่ได้สนใจอะไร แต่เห็นว่ามีการ บดอัดหลายวันและเสียงเครื่องจักรลากไปลากมา จึงได้ออกไปดูปรากฏว่าถมดินสูง จากระดับดินเดิมประมาณเมตรเศษ เวลาผ่านไปหลายวันจนถึงวันหนึ่งที่ฝนตกหนัก รั้วหลังบ้านซึ่งมีความยาวประมาณ 10 เมตร ด้านที่ถมดินนั่นแหละก็ล้มพังลงมา ทั้งแถบแล้วก็เป็นเรื่องแปลกที่พอรั้วพังเวลาคุยเจรจากันเรื่องค่าซ่อมก็มักจะได้รับ คำตอบว่า หารสอง โดยไม่หวนคิดซักนิดว่าสาเหตุเกิดจากอะไรสิ่งที่ทำไปได้ใช้ ความระมัดระวังแล้วหรือไม่ แต่ด้วยความที่เห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านข้างเคียง(มากเกินไป) และรั้วร่วมกัน คราวนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรั้วในราคาหารสอง เป็นเงิน 2 หมื่นกว่าบาท(ค่ารั้วประมาณ 4 หมื่นเศษ) เสร็จสรรพก็ได้รั้วใหม่กลับมา
ปีต่อมาข้างบ้านอีกด้านคือ ด้านที่อยู่ทางทิศตะวันตกได้มีการเปลี่ยนเจ้าของที่ดิน โดยเจ้าของคนใหม่ได้ซื้อที่ดินจากเจ้าของเดิม และจัดการถมดินอีกเช่นเดียวกัน คราวนี้ผู้เขียนได้แจ้งให้ข้างเคียงระมัดระวังเพราะดูแล้วจะถมสูงกว่าด้านหลังประมาณ เกือบ 1.50 เมตร และได้ใช้รถบดอัดกดกระแทกค่อนข้างชิดรั้วมาก ๆ เวลาผ่านไป แบบไม่ค่อยสบายใจมากนักเนื่องจากรั้วด้านนี้ยาวเกือบ 30 .00 เมตร และฝันร้าย ก็กลายเป็นจริงในเย็นวันหนึ่งที่ฝนตกหนัก ผู้เขียนได้ยินเสียงดังโครมใหญ่!
หลังสิ้นเสียงเห็นรั้วยาวล้มพาดมาทางฝั่งบ้านผู้เขียนซึ่งอยู่ต่ำกว่าทับต้นมะนาว ต้นอโศกอินเดียราบไปกับพื้น จึงได้ถ่ายรูปและโทรศัพท์แจ้งเจ้า ของที่ที่ทำการถม คราวนี้ไม่ได้รับคำตอบว่า หารสอง แต่ได้รับคำตอบในทำนองว่า เขาไม่ได้ทำรั้วพัง รั้วบ้านผู้เขียนเก่าแล้ว เหล็กเส้นก็นิดเดียวฝนตกก็ต้องพัง โห! ฟังแล้วก็มีความรู้สึกว่า คนเราเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ถมดินซะขนาดนั้น รั้วพังยังคิดว่าไม่ใช่ความผิดของตัว เลยหมดสิ้นคำพูดเขียนไปก็จะเป็นการต่อความยาวสาวความยืดไปเปล่า ๆ ในฐานะ เพื่อนบ้านข้างเคียง(ไม่รู้ว่าเขาจะคิดว่าเราเป็นเพื่อนบ้านข้างเคียงหรือเปล่าก็ไม่รู้)
จึงได้พยายามใช้วิธีปรองดอง โดยให้เขายอมรับก่อนว่า นี่คือความเสียหายที่เกิด จากการกระทำของคุณ เจรจากันจนจบลงที่ หารสอง(จนได้) ค่าซ่อมรั้วบ้านคราวนั้น ตกเกือบ 6 หมื่นกว่าบาท (คนละ 3 หมื่น) ประสบการณ์ที่ผ่านมา 2 ครั้งเป็นเหตุการณ์ ที่ผู้เขียนไม่ได้ใช้กฎหมายถมดินมาบังคับเอากับเพื่อนบ้านเลย ซึ่งดูแล้วอาจจะมองว่า เรื่องไม่ควรเสียเงินก็ไปเสีย ยอมเขาทำไม
เรื่องนี้จึงเป็นตัวอย่างหนึ่งของการไม่อยาก มีเรื่องกับเพื่อนบ้านโดยการยอมและเสียสละ ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นอุทธาหรณ์สำหรับผู้ที่ กำลังคิดจะถมดินหรืออาจกำลังประสบปัญหาแบบเดียวกัน จึงอยากจะแนะนำให้ศึกษา กฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ถ่องแท้ โดยเฉพาะพระราชบัญญัติการขุดดินและถมดิน พ.ศ.2543 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีสาระสำคัญในการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อควบคุม การขุดดินและถมดินในพื้นที่ที่ทำการก่อสร้างที่อยู่อาศัยหรือกิจการอื่นให้เป็นไปอย่าง ถูกต้องตามหลักวิชาการให้มีความปลอดภัยแก่ชีวิตทรัพย์สินของประชาชนทั่วไป หากพบว่ามีการกระทำใด ๆ ต่อดินหรือพื้นดินเพื่อให้ระดับดินสูงขึ้นกว่าเดิม ในฐานะที่ เราเป็นผู้มีส่วนได้เสียและอาจถูกละเมิดหรือได้รับผลกระทบจากการถมดินนั้น ก็มีสิทธิ ที่จะร้องขอให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือนายกเทศมนตรีสั่งให้หยุดการถมดินนั้นได้ และเมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้รับคำร้องแล้วจะให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสถานที่ถมดิน และทำรายงาน ถ้าพบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นจากการถมดินจริงก็จะมี คำสั่งให้ผู้ถมดินหรือเจ้าของที่ดินหยุดการถมดินหรือจัดการป้องกันความเสียหายที่อาจ เกิดขึ้นหรือจัดการแก้ไขการถมดินนั้นได้
สิ่งที่ท่านจะต้องทำต่อไปคือ รอดูผลของการ ออกคำสั่งแจ้งเพราะความผิด ตามพระราชบัญญัตินี้ถ้าผู้ถมดินหรือเจ้าของที่ดินกระทำการ โดยฝ่าฝืนกฎหมายจริงก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีทั้งโทษปรับและจำคุก คือ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ฉะนั้น ท่านมีกฎหมายอยู่ในมือแล้วขอให้อุ่น ใจค่อย ๆ อ่านค่อย ๆ ศึกษาเพื่อป้องกันและรักษา สิทธิในวันข้างหน้า แต่ก็แอบกระซิบซักนิด คำว่าเพื่อนบ้าน คนข้างบ้าน คนบ้านใกล้เรือนเคียง ไม่มีเรื่องทะเลาะกันถือเป็นดีที่สุด เพราะถ้ามีเรื่องบาดหมางกันแล้วคงจะอยู่กันอย่าง ปกติสุขยาก
ที่มา : สำนักการช่าง เทศบาลนครนครราชสีมา